กระชายขาว หรือ กระชายเหลือง หลาย ๆ คนอาจจะเกิดอาการสับสนว่ากระชายขาวกับกระชายเหลืองนั้นเป็นสมุนไพรคนละชนิด แต่อันที่จริงแล้วกระชายขาวและกระชายเหลืองนั้นเป็นสมุนไพรชนิดเดียวกัน โดยกระชายนั้นเป็นสมุนไพรที่มีมาตั้งแต่ช้านาน แต่ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ตั้งแต่ เหง้า ราก ใบ และยังมีรสชาติที่ เผ็ดร้อน ทำให้ผู้คนนิยมเอามาทำเป็นเมนูอาหาร ไม่ว่าจะเป็น แกงป่า หรือ ผัดฉ่า
โดยกระชายนั้นมีคุณค่าทางอาหารเป็นอย่างมากหากนำมาเปรียบเทียบกระชายปริมาณ 100 กรัมนั้นจะมี
- เส้นใยอาหาร 2.0 กรัม
- โปรตีน 1.8 กรัม
- วิตามินB6 8%
- วิตามินC 8%
- แคลเซียม 2%
- เหล็ก 3%
- แมกนีเซียม 11%
ทั้งนี้กระชายยังมีสรรพคุณช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน และบรรเทาโรคต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็น
- รักษาโรคปากเปื่อย ปากเป็นแผล
- ต้านหวัด รักษาอาการจมูกไม่ได้กลิ่น ไซนัสอักเสบ
- ช่วยลดการอักเสบของกระเพาะอาหาร ต่อต้านการเจริญเติบโตแบคทีเรียในลำไส้
- ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องร่วง ท้องเสีย
- ลดไขมันในเลือด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
- ใช้เป็นยาบำรุงร่างกายและชูกำลังเสริมสมรรถภาพทางเพศ
- บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
- แก้อาการวิงเวียนศีรษะ พะอืดพะอม แน่นหน้าอก
- ช่วยปรับฮอร์โมนในร่างกายให้สมดุล
- เป็นยาขับปัสสาวะ
- ช่วยบรรเทาอาการอักเสบ แผลบริเวณช่องปาก
- ลดการทำลายตับ ขับสารพิษออกจากตับ
- ช่วยบำรุงหัวใจ
อีกทั้งสารสกัดจากกระชายขาวสามารถช่วยสร้างภูมิโควิดได้ไม่ว่าจะเป็น
- Pandulatin A (แพนดูราทินเอ) เป็นสารที่ช่วยลดจำนวนเซลล์ที่ติดเชื้อลงได้
- Pinostrobin (พิโนสโตบิน) เป็นสารที่ช่วยยับยั้งการผลิตไวรัสออกจากเซลล์
จะเห็นได้ว่ากระชายขาวนั้นมีประโยชน์ และสรรพคุณเป็นอย่างมาก แต่การรับประทานที่มากเกินไปอาจส่งผลเสียกับร่างกายได้ ข้อระวังในการรับประทานกระชายมีดังนี้
- เด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร ยังไม่แนะนำให้รับประทาน
- ไม่ควรทานติดต่อกันเกิน 7 วัน
- ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป
- ผู้ที่เป็นตับอักเสบ ควรเข้ารับปรึกษาแพทย์และบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม
- ผู้ที่รับประทานยาสลายลิ่มเลือดควรหลีกเลี่ยง
- หากต้องการทานคู่กับฟ้าทะลายโจร ต้องคำนวณปริมาณให้เหมาะสม
อีกทั้งไม่ควรทานต่อเนื่องเป็นเวลานานเนื่องจากกระชายนั้นมีฤทธิ์ร้อน อาจส่งผลให้เกิดอาการร้อนในหรือแผลในปาก สำหรับบางคนที่รู้สึกว่ารับประทานยาก กินแล้วรู้สึกไม่สบายใจเพราะมีรสชาติที่ร้อนแรง ก็สามารถนำมาสกัดเป็นน้ำกระชายเก็บไว้ได้ โดยทำการผสม มะนาว และน้ำผึ้งเพิ่มเติมลงไป ก็จะทำให้รับประทานได้ง่ายขึ้น และยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมาก
ขอขอบคุณที่มาจาก : paolohospital