อาซาอี (Açaí) เป็นผลไม้พื้นเมืองจากป่าอะเมซอน ประเทศ บราซิล ถือเป็นหนึ่งในซุปเปอร์ฟู้ดที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงสุดมีลักษณะเป็นผลสดรูปทรงกลมรี คล้ายลูกปาล์ม มีสีม่วงเข้มเกือบดำ เนื้อในสีม่วงเข้มคล้ายสีกำมะหยี่ มีรสชาติที่วิเศษ ผสมผสานระหว่างความหวานอมเปรี้ยว มีกลิ่นหอมเฉพาะที่มีเอกลักษณ์
อาซาอีได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมาเพราะ รสชาติดี อาซาอีมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว กลิ่นหอมเฉพาะตัว จึงเป็นที่ถูกปากคนไทย นอกจากนี้ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ดังต่อไปนี้
- อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอนโทไซยานิน สูงกว่าผลไม้ส่วนใหญ่ เช่น บลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ และกาแฟ ประมาณ 2-3 เท่า ช่วยต้านมะเร็งและชะลอความแก่
- มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อหัวใจ เช่น กรดไขมันโอเมกา 3, 6 และ 9 ช่วยลดระดับคอเลสเตรอลในเลือด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
- อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน แคลเซียม เหล็ก และ โพแทสเซียมสูงกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ
- มีใยอาหารสูงกว่าผลไม้ทั่วไปประมาณ 2 เท่า ช่วยดูดซับน้ำตาลและไขมันส่วนเกิน เสริมระบบย่อยและขับถ่ายและลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ
อาซาอีจึงถูกนำมาแปรรูปเป็นดื่มน้ำผลไม้ นอกจากการน้ำผลไม้แล้วอาซาอี ยังสามารถนำผลอาซาอีมาประกอบเป็นเมนูต่างๆ โดยเชื่อว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพและเพิ่มพลังงาน ได้อย่างน่าสนใจ ดังนี้
- สมูทตี้อาซาอี - ผสมอาซาอี น้ำผึ้ง นมถั่วเหลือง พร้อมกับผลไม้อื่นๆ เช่น กล้วย มะม่วง เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
- โยเกิร์ตอาซาอี - ผสมโยเกิร์ตกับอาซาอี มะนาว น้ำผึ้ง เป็นของหวานเพื่อสุขภาพได้ง่ายๆ
- สลัดผักและอาซาอี - ทำสลัดผักสดผสมกับอาซาอี มะนาว น้ำมันมะกอก เกลือและพริกไทย
- อาซาอีไอศกรีม - ทำไอศกรีมจากอาซาอีผสมกับนมสด ครีมสด น้ำผึ้ง
- อาซาอีเค้ก - ทำเค้กผสมกับอาซาอีเป็นส่วนประกอบเนื้อเค้ก หรืออาซาอีซอส เค้กรสชาติแปลกใหม่
- น้ำพริก/ซอสอาซาอี - นำมาปรุงรสกับน้ำพริก ซอสสำหรับทานกับเนื้อ หรือปลา เพิ่มรสชาติที่แปลกใหม่
การนำอาซาอีผสมกับเมนูอาหารต่างๆ จะทำให้ได้รับประโยชน์จากคุณค่าทางอาหารของอาซาอีไปด้วยในตัว
แม้ อาซาอี จะไม่ใช่ผลไม้ที่คุ้นเคยในประเทศไทย แต่ก็ถือเป็นผลไม้ที่มีสารอาหารและคุณประโยชน์ต่อร่างกายสูงมาก จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน กระแสรักสุขภาพ คนไทยจึงให้ความสนใจกับอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น อาซาอีจึงตอบโจทย์ด้วยคุณประโยชน์ทางโภชนาการสูง